12 Tenses ที่แสนจะง่ายๆเอง
แต่ถ้าศึกษาแล้วก็เตรียมตัวเรียนกันเลยครับ แต่ต้องพึงระลึกว่า โครงสร้างทางภาษาบางทีต้องท่องจำเหมือนสูตรคูณ แต่ถ้าเราคล่องแล้วมันก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนั่นแหละ ซึ่งเราก็จะรู้อัตโนมัติว่าโครงสร้างนี้ คือ Tense อะไร เพราะเวลาแปล จะได้แปลถูก และรู้เรื่อง
เรื่อง tense ก็คือเรื่องของเวลา หมายความว่าเวลาที่เราจะพูดอะไรสักอย่างจะมีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เพราะตัวเวลานี้แหละที่ทำให้โครงสร้างประโยคเปลี่ยนไป เช่น
I eat rice. ถ้าพูดอย่างนี้หมายความว่ากินข้าวเป็นอาหารหลัก และกินทุกวัน
I am eating rice. หมายความว่ากำลังกินข้าวอยู่
I ate rice. หมายความว่า ฉันได้กินแล้วข้าวเรียบร้อย
ยกตัวอย่างให้ดูคร่าวๆ นะครับ เดี๋ยวค่อยทำความเข้าใจไปทีละเรื่อง เดี๋ยวจะเข้าใจเองแหละครับ
เนื้อหาทั้งหมดด้านล่างนี้เป็นสุดยอดเคล็ดลับวิชาจากเส้าหลิน ที่่ผ่านการกลั่นกรองแล้วว่าคัดมาแต่เนื้อๆ และรับรองผล แต่ต้องศึกษาให้เข้าใจไปตามขั้นตอน โดยเฉพาะมือใหม่ ห้ามลัดหรือข้ามเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะยิ่งงงมากขึ้น แต่ถ้าเข้าใจแล้วในบางเรื่อง ก็เลือกศึกษาเฉพาะเรื่องที่ต้องการก็ได้
คำ วลี ประโยค คืออะไร
ประธาน กริยา กรรม คือ อะไร ตัวไหนคือประธานกันแน่
ประธานเอกพจน์ พหูพจน์ มีอะไรบ้าง สังเกตตรงไหน
กริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อย พร้อมคำอ่าน คำแปล
กริยาช่วยทั้ง 24 ตัว
Question Word คำที่นำมาใช้เป็นคำถาม
- การใช้ Who
- การใช้ What
- การใช้ Where
- การใช้ When
- การใช้ Why
- การใช้ How
- How much/ How many
- How old
- How often
- How far
- How long
- How high/ How tall
- การใช้ Which
- การใช้ Whom กับ Who
- การใช้ whose กับ Who’s
- การใช้ Thatเป็นคำเชื่อม
- ข้อสอบ wh-question ฉบับรวมมิตร
โครงสร้าง Tense 12 พร้อมวิธีแปล
***** ทำความเข้าใจก่อน *****
สิ่งที่เรากำลังเรียนต่อไปนี้เรียกว่า Tense (เท็นส) ซึ่งเป็นยาขมหม้อใหญ่ที่นักเรียนน้อยคนจะสามารถเรียนรู้ให้เข้าใจได้ ทั้งนี้เพราะมีกฎเกณฑ์มากมาเหลือเกิน ดังนั้น ครูจึงตัดทอนออกบางส่วน โดยนำส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญให้นักเรียนได้เรียนรู้ก่อนเป็นลำดับแรก ถ้านักเรียนเข้าใจหลักการเหล่านี้แล้ว ส่วนที่เป็นปลีกย่อยที่ตำราเขียนกันเป็นเล่มใหญ่ก็จะเป็นเรื่องหมูๆสิ่งที่เขียนต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ครูประมวลสรุปให้แล้วนะครับ ว่ามันสำคัญจริงๆ และจำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะ tense คือโครงสร้างภาษาอังกฤษ ที่นักเรียนไทยต้องเรียนรู้ บอกเลยว่าต้องเรียนรู้ ขอเถียงชนฝาเลยตรงนี้เลย ถ้าเราเป็นแค่เด็กๆขายน้ำอัดลมให้ฝรั่งก็ไม่จำเป็นต้องเรียนหรอก เพราะภาษาที่ใช้มันก็แค่ไม่กี่ประโยค แต่สำหรับนักเรียนที่จะเรียนรู้ขั้นสูง โดยเฉพาะคนที่จะต้องศึกษาจากตำราฝรั่ง ต้องเรียนให้แจ่มแจ้งเลย ไม่งั้นจะอ่านตำราไม่เข้าใจ เพราะอย่าลืมว่าใครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษมีตั้ง 24 (Active 12+Passive 12)
ก่อนจะเข้าสู่บทเรียนก็อยากฝากไว้ว่า การฝ่าด่าน tense เหมือนกับการวิ่งมาราธอนนั่นแหละ ต้องใช้ความขยัน อดทด อ่านซ้ำบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆซึมเข้าสมอง แล้วสุดท้ายก็จะเข้าใจเองแหละครับ สู้ๆ
Present Tenses (ปัจจุบันกาล)
Present Simple Tense ใช้บ่อยสุด เป็นเนื้อหาในตำราเสียส่วนใหญ่- การเติม s es ที่ท้ายกริยา
- โครงสร้างประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม
- ตัวอย่างประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม
- การใช้ Verb to be ( is am are)
- การใช้ Verb to have (have, has)
- การใช้ Verb to do ( do, does)
- บทอ่าน present simple tense ง่ายๆ
- สรุปหลักการใช้ Present Simple Tense
- หลักการเติม ing ที่ท้ายคำกริยา
- คำกริยาที่ไม่เติม ing
- การเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธ คำถาม
- สรุปหลักการใช้ Present Continuous Tense
Present Perfect Continuous Tense เห็นใช้อยู่แต่ไม่บ่อย
Past Tenses (อดีตกาล)
Past Simple Tense เห็นบ่อยๆเลย โดยเฉพาะในนิทาน- หลักการใช้ did
- หลักการเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธ คำถาม
- หลักการใช้ was were
- Present Perfect Tense กับ Past Simple Tense ใช้ต่างกันอย่างไร
Past Perfect Tense นี่ก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก
Past Perfect Continuous Tense นานๆ จึงจะเจอที
Future Tenses (อนาคตกาล)
Future Simple Tense ใช้บ่อยอยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบพูดว่า จะโน่น จะนี่Future Continuous Tense แทบไม่ได้ใช้เลย ปีหนึ่งจะได้พูดสักครั้งหรือเปล่า
Future Perfect Tense ไม่ใช้ก็ยังได้เลยตัวนี้
Future Perfect Continuous Tense เก็บเข้ากรุได้เลย ชาตินี้จะได้พูกสักครั้งหรือเปล่า
สรุปย้ำเพิ่มความเข้าใจเรื่อง Tenses
เรื่อง Tense จบแล้วจ้า ต่อไปก็จะพูดถึงเรื่อง Passive Voice หรือจะกล่าวไปแล้ว มันก็คือ Tense อีก 12 ตัว ซึ่งจะกล่าวถึงประธานเป็นผู้ถูกกระทำ Tense ที่เราเรียนไปแล้วนี้ เรียกว่า Active Voice คือ ประธานเป็นคนกระทำ
แล้วก็จะต่อด้วย Reported Speech , If cluause และอี่นๆ ขอคิดดูก่อน คิดอะไรได้ก็จะเอาอันนั้นแหละ
ปล. การศึกษาเรื่อง Tense ไม่ใช่เรียนผ่านแล้วผ่านเลยนะครับ ให้อ่านบ่อยๆ หลายๆรอบ ดูตัวอย่างเยอะๆ ให้มันซึมซับ ตอนนั้นแหละเรื่อง Tense ก็จะเป็นเรื่องหมูๆ ทันที
การเรียนรู้เรื่อง Tense ให้เข้าใจจะมีประโยชน์ตอนอ่านภาษาอังกฤษ กับเขียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก เขียนได้ถูกต้องตามหลักภาษา จะบ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีความรู้อย่างแท้จริง
ขอบคุณที่มาจาก www.ภาษาอังกฤษออนไลน์.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น